ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล
เปิดสนามแอนฟิลด์ ปะทะกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทางเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ของ เบรนแดน
ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ยังขาด 2
ตัวหลัก สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า
พักประมาณ 5 สัปดาห์ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
กองหน้าตัวเก่งเจ็บข้อเท้า พักอีกประมาณ 6 สัปดาห์
รวมถึงสองกองหลัง โฆเซ่ เอ็นริเก้ แบ็กซ้ายชาวสเปน กับ เซบาสเตียน โคอาเตส
เซนเตอร์ฮาล์ฟอุรุกวัย ที่บาดเจ็บพักยาวอยู่ก่อนแล้ว แต่กำลังสำคัญที่เหลือพร้อมลงเล่น
นำทัพโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ หลุยส์
ซัวเรซ ที่เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่ไปสดๆ ร้อนๆ ส่วน คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ของกุนซือ
มัลกี้ แม็คคาย สภาพทีมไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน ส่วน 11 คนแรกแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากนัดก่อน จะมีแค่ อารอน กุนนาร์สสัน ลงมาแทน เฟรเซอร์
แคมป์เบลล์ ในแนวรุก นาทีที่ 25 ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำ
เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่งบอลให้ ซัวเรซ วอลเล่ย์เข้าประตูไป นาทีที่ 41
จากจังหวะ หลุยส์ ซัวเรซ ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนที่จ่ายให้ ราฮีม
สเตอร์ลิง ยิงเข้าไปโล่งๆ ลิเวอร์พูลออกนำ 2-0 นาทีที่ 45
สกอร์ขยับไปเป็น 3-0 เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ตอกส้นให้ หลุยส์ ซัวเรส ปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลโค้งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม นาทีที่
58 คาร์ดิฟฟ์ได้ประตูตีไข่แตก เมื่อมาได้ฟรีคิก
ปีเตอร์ วิตติงแฮมโยนเข้ามา แล้วก็เป็น จอร์ดอน มัทช์
ที่ได้ยืนโหม่งโล่งๆ คนเดียว คาร์ดิฟฟ์ไล่มา 1-3 จบเกมการแข่งขัน
ลิเวอร์พูลชนะคาร์ดิฟฟ์ 3-1 ขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว
เดิมพันกีฬา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟูแล่ม เปิดสนาม คราเวน ค็อทเทจ ปะทะกับ แมนเชสเตอร์
ซิตี้ มานูเอล เปเยกรีนี่ ผู้จัดการทีม ผลงานกำลังร้อนแรง
ต้องพบข่าวร้ายที่ต้องเสีย เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงตัวเก่งที่เจ็บน่องชวดลงสนาม
โดย เอดิน เชโก้ พร้อมเสียบแทน ส่วนนักเตะส่วนใหญ่ยังยึดชุดเดิมเป็นหลัก นำทัพโดย แฟร์นานดินโญ่,
ยาย่า ตูเร่ และ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ส่วนเจ้าบ้าน ฟูแล่ม ของ เรเน่
มิวเลนสตีน กุนซือมือใหม่ ยังขาดปราการหลังคนสำคัญอย่าง เบรเด้ ฮันเกลันด์ ที่เจ็บเข่า
ส่วนสภาพทีมที่เหลือพร้อมลงสนาม นาทีที่ 12 เจ้าถิ่นได้ทักทายก่อน เมื่อ อเดล ตารับต์ ได้จังหวะซัดในเขตโทษ แต่ โจ
ฮาร์ท ยังไว ล้มตัวปัดไว้ได้ทัน นาทีที่ 19 เป็นโอกาสของฟูแล่มอีกครั้ง
อเดล ตารับต์ ลองส่องไกลนอกกรอบ แต่บอลยังตรงตัว โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์
ซิตี้ นาทีที่ 23 ทีมเยือน ได้ประตูออกนำ 1-0 จากฟรีคิกสุดสวยของ ยาย่า ตูเร่ นาทีที่ 42
แว็งซ็องต์ ก็องปานี บวกประตูที่ 2 ให้ทีมเยือน
จากการตามซ้ำจังหวะเซฟของ มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก นาทีที่ 49 แฟนบอลฟูแล่มได้เฮ เมื่อ อเดล ตารับต์ เปิดให้
คีแรน ริชาร์ดสัน ยิงโล่งๆ ผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าไป ทำให้เจ้าถิ่นตีตื้นมาเป็น 1-2
นาทีที่ 68 ฟูแล่ม ตามตีเสมอได้สำเร็จ
จากจังหวะสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี สกอร์เป็น 2-2
นาทีที่ 78 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
กลับขึ้นอีกครั้ง จากการยิงของ เฆซุส นาบาส สกอร์เพิ่มเป็น 3-2 ถัดมานาทีที่ 83 กลายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ที่มาได้ประตูที่ 4 จากการยิงของ เจมส์ มิลเนอร์ ช่วงเวลาที่เหลือเป็นแมนเชสเตอร์
ซิตี้ ที่ทำเกมรุกใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์
ซิตี้ บุกชนะ ฟูแล่ม 4-2 พร้อมขยับขึ้นรั้งรองจ่าฝูง โดยมีคะแนนตามหลังลิเวอร์พูล
1 แต้ม
เดิมพันกีฬา ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ปะทะกับ เวสต์แฮม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์
ยูไนเต็ด ส่ง เวนย์ รูนี่ย์ ดาวยิงตัวเก่งฟิตทันลงช่วยทีม ผนึกกำลัง แดนนี่
เวลเบ็ค โดยมี อัดนาน ยานูซาย คอยหนุนแนวรุก รับ
"ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่มี แม็ทธิว จาร์วิส กับ
โมดิโบ ไมก้า เป็นสองความหวัง เริ่มเกมมา 2 นาที เป็นเจ้าถิ่นมาเสียวก่อน เมื่อแนวรับ เวสต์แฮม สกัดบอลมาเข้าทาง ทอม
เคลฟเวอร์ลี่ย์ ได้ยิงซ้ำจ่อๆ แต่ อาเดรียน ยังเซฟมือเดียวได้อย่างยอดเยี่ยม 10 นาทีต่อมา เจ้าบ้าน ได้ฟรีคิกระยะน่ารักน่าลุ้น ตรงหัวกะโหลกกลางประตู
เวย์น รูนี่ย์ รับหน้าที่ยิง บอลข้ามกำแพงไปแล้ว แต่เหินข้ามคานออกหลังไป นาทีที่ 26
แฟนๆปีศาจแดงได้เฮลั่น เมื่อ เวลเบ็ค ไขว้บอลให้ เวย์น รูนี่ย์ เลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษ
ก่อนจ่ายให้ แดนนี่ เวลเบ็ค วิ่งมากดยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งตุงตาข่ายให้ แมนฯ ยูฯ
ขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 37 แมนฯ ยูฯ
มาบวกสกอร์เพิ่มได้อีก เมื่อ เวลเบ็ค จ่ายบอลให้
อัดนาน ยานาไซ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนล็อคหลบ เจมส์ คอลลินส์ ด้วยเท้าซ้าย ก่อนบรรจงปั่นยิงมุมแคบด้วยเท้าขวาอย่างเหนือชั้น
ผีแดง ฉีกสกอร์ 2-0 นาทีที่ 72 แมนฯ ยูฯ
มาบวกสกอร์เพิ่มจนได้ เมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดบอลเข้ากลางให้ เวย์น รูนี่ย์
แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนไหลให้ แอชลี่ย์ ยัง ปั่นยิงด้วยขวา
บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวย ให้เจ้าถิ่นนำห่าง 3-0 นาทีที่
81 ทีมเยือนตีไข่แตกจนได้ เมื่อ โมดิโบ ไมก้า จ่ายบอลให้
คาร์ลตัน โคล หลุดเดี่ยวหลัง บุทท์เนอร์ ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมา
ไปยืนห้อยอยู่คนเดียว จึงไม่ล้ำหน้า ก่อน โคล ล่อเป้าไม่เหลือ ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา แมนฯยูฯ
จึงเปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ไป 3-1 เก็บสามแต้มได้สำเร็จสรุปผล ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2556 ลิเวอร์พูล ชนะ คาร์ดิฟฟ์ 3-1, คริสตัล พาเลซ แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-3, ฟูแล่ม แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-4, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เวสต์แฮม 3-1, สโต๊ค ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1, ซันเดอร์แลนด์ เสมอ นอริช 0-0, เวสต์บรอมวิช เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 1-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น